Search
Close this search box.

หลังจากตอนที่แล้ว ผมพาไปชมนิทรรศการ ไอดอลมาสเตอร์ มิวเซียม มาแล้ว ตอนนี้จะพาไปทานอาหารเที่ยงละครับ

จากทัวร์แมวจรครั้งแรก ผมเคยพาไปทานบุฟเฟต์เนื้อย่างของร้าน Gyukaku ซึ่งร้านนั้นเปิดตอนเย็น ไปจนถึงตีสาม แต่มาคราวนี้ จะพาไปทานของร้านแบบที่ไม่ใช่บุฟเฟต์ และเปิดให้ทานตั้งแต่ตอนเที่ยงดูบ้าง

คราวนี้จะพามาที่ร้าน Jojoen (叙々苑) ครับ ซึ่งเป็นร้านประเภท Yakiniku ที่เปิดหลายสาขาทั่วญี่ปุ่นเหมือนกัน โดยเปิดสาขาแรกที่เขตรปปงกิ (Roppongi 六本木) แต่ละสาขาจะมีเวลาเปิดปิดร้านใกล้เคียงกัน คือ เปิดร้านช่วงสายๆ แล้วปิดร้านช่วง 3-4 ทุ่ม

เมนูอาหารในร้านก็มีทั้งแบบคอร์สอาหารเย็น ราคาตั้งแต่ 4,500-10,000 เยน, ชุดอาหารเที่ยง ราคา 1,000-4,000 เยน, ตามสั่ง ราคาตจานละตั้งแต่ 300-4,000 เยน, และข้าวกล่อง ราคาตั้งแต่ 350-4,000 เยน เมนูเดียวกัน อาจจะมีราคาต่างกันไปในแต่ละสาขาครับ เช่น สาขา โตเกียวสกายทรี โซระมาจิ (東京スカイツリータウン・ソラマチ店) จะแพงกว่าสาขาอื่น

สาขาที่ผมมากิน อยู่แถวๆ อิเคะบุคุโระ บริเวณถนน Sunshine 60 ตอนขึ้นมาถึง ก็รอคิวอยู่ประมาณ 20 นาที

เมนูชุดอาหารเที่ยง

เอาชุดเนื้อย่างแบบปกติละกัน (焼肉ランチ) ราคา 1,300 เยน ในชุดประกอบไปด้วยกิมจิ, สลัด, นามุล (ผักย่าง เครื่องเคียงของเกาหลี), เนื้อ, ข้าวสวย, ซุป, ขนมหวาน, และเครื่องดื่มหนึ่งชนิด

มาแล้วๆ

เหมือนจะให้เนื้อน้อยไปรึเปล่านะ

เอ้า ย่าง!

เนื้อย่างจนสุก ติดมันหน่อยๆ กำลังดี ถ้ามันมากไปหรือไม่มีมันเลยก็จะไม่ค่อยเข้าถึงความอร่อยสักเท่าไหร่ ทานกับซอสจิ้ม อร่อยดี =w=b

หลังจากทานเสร็จก็แวะไปเดินเล่นแถวๆ โอโตเมะโร้ด และร้านขายของอนิเมะแถวๆ นั้น ใช้เวลาไปร่วมชั่วโมงกว่าๆ

หืม มี Rilakkuma มานั่งอาบแดดอยู่ตรงนี้ด้วย XD

ตรงนี้เป็น อาคาร Sunshine 60 ใน Sunshine City แต่มาคราวนี้ไม่ได้เข้าไปละ เพราะเคยไปแล้วเมื่อปี 2012

เดินเล่นสักพัก ก็กลับไปที่สถานีรถไฟ เพื่อเดินทางต่อ ไปสะดุดตาเข้ากับโฆษณาปาจิงโกะธีม AKB48 ที่เพิ่งมาเปิดในอิเคะบุคุโระพอดี

ผมมาที่สถานีโตเกียวครับ ได้ข่าวมาว่าเพิ่งตกแต่งใหม่ไปเมื่อปลายปี 2012 ก็เลยแวะมาดูสักหน่อย

แต่จริงๆ แล้วไม่ได้มาที่นี่เพื่อมาดูสถานีเป็นหลักนะ ผมมาที่สถานีโตเกียว เพื่อมาซื้อ Rail Pass ครับ

หลายๆ คนที่เคยไปเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตนเองคงจะทราบว่า Japan Rail Pass นั้นต้องซื้อกับตัวแทนจำหย่ายนอกประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจะขายเป็น exchange order แล้วค่อยเอา exchange order นั้นมาแลกเป็น Japan Rail Pass ในญี่ปุ่นอีกที แต่ถ้าเป็น Rail Pass ชนิดอื่นๆ จะสามารถซื้อเป็น exchange order นอกญี่ปุ่น หรือมาซื้อ Rail Pass ในญี่ปุ่นเลยก็ได้ครับ

Rail Pass ที่มีขายในญี่ปุ่น จะมีขายตามสถานีสำคัญๆ เช่น สถานีรถไฟที่เป็นสนามบิน หรือสถานีรถไฟตามเมืองใหญ่ๆ เช่น โตเกียว ตามสถานีเหล่านี้จะมีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ที่นอกจากจะจำหน่าย Rail Pass แล้ว ยังเป็นสถานที่ให้ข้อมูลการท่องเที่ยวด้วย

ดูจากแผนการเดินทางแล้ว Rail Pass ที่น่าจะเหมาะที่สุดก็จะเป็น JR East Pass นี่ล่ะ ราคา 20,000 เยนสำรับผู้ใหญ่ ใช้ได้สี่วันต่อเนื่อง

ในช่วงเดือนเมษายนจนถึงสิ้นเดือนมิถุนายน ก็จะมี JR East Pass Special มาขายด้วย ราคา 15,000 เยน ใช้ได้ 3 วัน ไม่จำเป็นต้องต่อเนื่องก็ได้ แต่จะต้องใช้ภายใน 10 วัน จากวันที่เริ่มใช้

ผมซื้อแบบที่สองละกัน เพราะอยู่แค่สามวันพอดี นั่งชินคันเซ็นไปกลับสักรอบก็น่าจะคุ้มกับเงินที่เสียไปละ

หลังจากซื้อเสร็จก็ไปย่านกินซ่า ถือได้ว่่าเป็นย่านคนรวยเลยล่ะ แม้แต่ Apple Store สาขาแรกในญี่ปุ่นก็อยู่ที่กินซ่า

เราสามารถเดินทางไปที่สถานีกินซ่าได้สองวิธี วิธีแรก สำหรับผู้ที่มี JR Pass คือนั่งรถไฟสาย Yamanote ไปลงที่สถานี Yurakucho แล้วเดินไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 500 เมตร ก็ถือว่าเดินไกลอยู่เหมือนกัน

วิธีที่สองก็คือขึ้นรถไฟใต้ดิน สาย Ginza Line, Hibiya Line, หรือ Marunouchi Line มา ซึ่งจะอยู่ใกล้ย่านกินซ่ากว่า

จากแผนที่นี้ ด้านขวาคือย่านกินซ่า จะสังเกตได้ว่าพื้นที่จะถูกแบ่งเป็นบล็อกสี่เหลี่ยม ดูเป็นระเบียบดีจริงๆ

ในย่านกินซ่า มีร้าน Apple Store สาขาแรกในญี่ปุ่นตั้งอยู่ แล้วก็มี Sony Store ซึ่งเป็นทั้งศูนย์แสดงสินค้าและร้านขายของ Sony ด้วย

หลังจากเดินเล่นในกินซ่าสักพัก ผมก็กลับไปเช็คอินที่โรงแรม

แล้วก็เก็บของที่ซื้อมา ก่อนที่จะออกเดินทางไปสู่เป้าหมายต่อไป นั่นคือ โอไดบะ ครับ

ข้อมูลเพิ่มเติม & ข้อมูลบางส่วนจาก
เว็บไซต์ของร้าน Jojoen(ภาษาญี่ปุ่น)

Leave a Reply